จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

อุตุฯเตือนฝนหนัก 10 จว. กทม.80%พื้นที่

           วันที่ 7 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือน ฉ.28 ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.ตาก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากต่อไปอีก 1 วัน อนึ่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป 80% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสกลนคร อุดรธานี ชัยภูมิ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.



ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME5qazRNVEF5TUE9PQ==&subcatid=

วันอังคารที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2555

ชาม’แจงเลิกทำพิธีกร‘สีสันบันเทิง’

          งานเปิดตัวละครเรื่อง “สายฟ้ากับสมหวัง” ที่ชั้นจี ห้างเอสพลานาด รัชดา นักแสดงสาว ‘ชาม โอสถานนท์’ ชี้แจงถึงกรณีข่าวเรื่องที่ไม่ได้ทำพิธีกรายการ “สีสันบันเทิง” แล้วเพราะมาเล่นละครกับค่ายเอ็กแซ็กท์ โดย ‘ชาม’ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้ทำพิธีกรรายการสีสันบันเทิงแล้ว ถามว่าเพราะมาเล่นละครเอ็กแซ็กท์หรือเปล่า เรื่องนี้ตนไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ที่ผ่านมาดีใจที่ทางช่อง3 ให้เป็นพิธีกรบันเทิงมา 3 ปีแล้ว ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าแบบนี้เหมือนทางผู้ใหญ่ตัดออกจากรายการหรือเปล่า นักแสดงสาวตอบเลี่ยงๆ ว่า เอาเป็นว่าที่ผ่านมาตนดีใจกับโอกาสที่ได้รับกับทางช่อง3 และตอนนี้มีโปรเจคต์ใหม่กับทางเอ็กแซ็กท์กับละครเรื่อง ‘สายฟ้ากับสมหวัง’ ก็อยากให้ทุกคนได้ดูละครเรื่องนี้ ต่อข้อซักถามที่ว่าเสียใจหรือเปล่าที่ถูกปลดออกจากการเป็นพิธีกรรายการ นักแสดงสาวตอบ ตนไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์ที่ดีกับชีวิต และขอบคุณช่อง 3 กับทุกอย่างที่ผ่านมา ส่วนต่อไปนี้จะมีงานต่อๆ ไปกับทางเอ็กแซ็กท์หรือเปล่านั้น ตนก็อยากมีนะแต่มไม่รู้ว่าจะมีหรือเปล่า และตอนนนี้ให้ผู้ใหญ่ทางเอ็กแซ็กท์คอยดูแลงานให้
          ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าในฐานะที่เคยผ่านการทำงานมาหลายช่องความแตกต่างของแต่ละที่เป็นอย่างไรบ้าง “ความเหมือนคือความเอาใจใส่คะ เขาพยายามเอาใจใส่และทำผลงานให้ออกมาดีที่สุดในแบบฉบับของเขา ทางเอ็กแซ็กท์เองก็ดูแลทุกรายละเอียดว่าบทเล่นถึงหรือเปล่า ไปจนถึงความแฮปปี้ของนักแสดงด้วย ส่วนการทำงานของช่อง 3 และช่อง 7 จริงๆ ก็พูดยากนะเพราะชามอยู่ช่อง7 กับช่อง 3 ชามเล่นกับของอาตู่(นพพล โกมารชุน) อย่างเดียว ไม่เคยเจอเจ้าอื่นเลย มาที่เอ็กแซ็กท์ก็เหมือนเปิดประสบการณ์ใหม่ขึ้น ซึ่งทางอาตู่ก็อยากให้ชามไปเติบโตหลายๆ ที่เหมือนกัน พอมีโอกาสมาค่ายใหม่จะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ส่วนการกลับไปร่วมงานกับอาตู่อีก ถ้าอาตู่ให้โอกาสก็ยินดีค่ะ” สาว ‘ชาม’ กล่าวทิ้งท้าย



ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME5qWTNOVEV5TkE9PQ==&subcatid=

เวิร์คพอยท์ฯกวาด5รางวัล“พิฆเนศวร”

          เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ณ ห้องรัชนีแจ่มจรัส 4 ศูนย์การประชุมรัชนีแจ่มจรัส สันนิบาตแห่งประเทศไทย มีงานประกาศผลรางวัลพิฆเนศวร ซึ่งจัดโดย สมัชชานักจัดรายการข่าว วิทยุโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ซึ่งบริษัท เวิร์คพอยท์ฯ กวาดไป 5 รางวัล ซึ่งบิ๊กบอส คุณปัญญา นิรันดร์กุล นำทีมพิธีกรรายการและทีมงานเข้าร่วมรับรางวัล
         ซึ่งรางวัลที่ได้รับคือ รางวัลส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมดีเด่น ได้แก่ รายการคุณพระช่วย,รางวัลส่งเสริมศิลปดนตรีดีเด่น ได้แก่ รายการชิงช้าสวรรค์, รางวัลส่งเสริมเพื่อการศึกษาดีเด่น ได้แก่รายการวิทยสัประยุทธ์, รางวัลส่งเสริมธุรกิจและ อุตสาหกรรมดีเด่น ได้แก่ รายการ SME ตีแตก และรางวัลพิธีกรผู้ดำเนินรายการชายดีเด่น คุณปัญญา นิรันดร์กุล จากรายการชิงร้อย ชิงล้าน Sunshine Day




ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME5qYzBPRE15TVE9PQ==&subcatid=

รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงของ พลิกคว่ำที่แพร่ คนขับดับ

วันที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 17:01 น.
          เมื่อ 4 ก.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พ.ต.ท.บุญเสริม สุริยา พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถทัวร์เสียหลักลื่นพลิกคว่ำอยู่บนกลางถนนสายอุตรดิตถ์-เด่นชัย จ.แพร่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 137-138 หมู่ 4 ต.ห้วยไร่ จ.แพร่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หลังจากได้รับแจ้งแล้วจึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยไทรย้อย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย เดินทางไปที่เกิดเหตุ พบรถ บขส.กรุงเทพ-เชียงของ ยี่ห้อวอลโว่ ทะเบียน 15-3008 กรุงเทพมหานคร จึงได้รีบนำคนเจ็บทั้งหมด 7 คนส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย
          จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า รถทัวร์คันดังกล่าว ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 20.00 น. มีนายมหรรนพ กองขุนทด อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 72/2 หมู่ 21 ต.คลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน กำแพงเพชร เป็นคนขับรถจะไปส่งผู้โดยสารจำนวน 30 คน ไปยังอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 04.30 น. ขณะนั้นฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งเป็นทางโค้งลงเขาพลึง หมู่ 4 บ้านห้วยไร่ จ.แพร่ ซึ่งขณะนั้นมีฝนตกหนัก รถวิ่งส่ายไปมา โดยด้านซ้ายเป็นเหวลึก คนขับได้ตัดสินใจหักพวงมาลัยชนกับแผงซีเมนต์กลางถนน จนรถพลิกคว่ำ และคนขับถูกแรงเหวี่ยงของรถจนกระเด็นออกหน้าต่าง ตกอยู่กลางถนน หน่วยกู้ชีพได้นำคนขับส่งโรงพยาบาลพร้อมคนเจ็บอีก 6 คนที่ได้รับบาดเจ็บ แต่คนขับทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด




ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME5qYzFNekE1TVE9PQ==&subcatid=

รวบเอเย่นต์ยาเสพติดเครือข่ายคุกบางขวาง

วันที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 16:40 น.
          วันที่ 4 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.3 พ.ต.อ.คมสัน แตงจุ้ย ผกก.สน.ลาดกระบัง พ.ต.ท.สุรเดช แถวศรีสุวรรณ์ สว.สส.สน.ลาดกระบัง แถลงข่าวผลการจับกุมตัวนายอภิชาติ หรือติ๊บ เส็งทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/28 หมู่ 8 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี และนางมยุรี หรือฮูก เพ็ชรนิล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 ซอยอ่อนนุช 49 แขวงและเขตสวนหลวง พร้อมของกลางยาบ้า 40,000 เม็ด และยาไอซ์ 10 กิโลกรัม จับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 201หมู่ 5 หมู่บ้านรุ่งกิจวิลล่า 9 แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง
          พ.ต.ท.สุรเดช เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีเอเย่นต์ยาเสพติดรายใหญ่เครือข่ายเรือนจำบางขวาง ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเพื่อรอกระจ่ายไปจำหน่ายในพื้นที่อื่น จึงนำกำลังลงพื้นที่เป้าหมาย กระทั่งเวลา 23.00 น.พบผู้ต้องหาลงจากรถแท็กซี่สีเขียว หมายเลขทะเบียน ทศ 2640 กรุงเทพมหานคร พร้อมกับหิ้วถุงขยะสีดำมาด้วย ชุดจับกุมจึงเข้าตรวจค้น พบยาไอซ์ 10 กก. จากการสอบสวนขยายผลยังทราบว่ามียาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านเลขที่ 201อีก 4 หมื่นเม็ด จึงเข้าตรวจค้นและยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่า รับยาเสพติดล็อตดังกล่าวมาจากตลาดไท เพื่อเตรียมส่งไปยังภาคใต้ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครอง ก่อนส่งตัวให้บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป







กรมศุลกากรลุยสถานีรถไฟหาดใหญ่-จับเหล้าหนีภาษี

วันที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 16:18 น.
          วันที่ 4 ก.ย. นายนิมิตร แสงอำไพ ผอ.ส่วนสืบสวนปราบปรามทางทะเล กรมศุลกากร สืบทราบว่า ขบวนการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีจากชายแดนไทย-มาเลเซีย นำสินค้าไปซุกซ่อนไว้ในตู้โบกี้รถไฟ ภายในสถานีรถไฟหาดใหญ่ เตรียมนำส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ กทม.และ จ.นครปฐม จึงนำกำลังเข้าตรวจยึดสุราและไวน์หนีภาษี 78 ลัง มูลค่ากว่า 5 แสนบาท และไพ่อีก 1,300 สำรับ มูลค่า 1.3 แสนบาท ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตู้โบกี้สินค้า 2 ตู้



ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME5qYzFNRFExTkE9PQ==&subcatid=

"เพื่อไทย" จี้ธาริตกระชากหน้ากากนักการเมืองเอี่ยวทุจริต จัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวะ

วันที่ 04 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 15:20 น.
          เวลา 13.30 น. วันที่ 4 ก.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นายประแสง มงคลศิริ อดีตที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ฐานะคณะทำงานสำนักงานปราบโกงของพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวภายหลังนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ออกมาแถลงถึงโครงการการฮั้วประมูลในการจัดซื้อครุภัณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา โดยมีหลักฐานปรากฏชัดว่ามีการสมยอมราคาเกิดขึ้น และมีอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการ มาให้ข้อมูลกับดีเอสไอว่าถูกฝ่ายการเมืองบีบว่า ตนอยากเรียกร้องให้นายธาริตเจาะลึกข้อมูลลงไปเพื่อกระชากหน้ากาก และเปิดเผยข้อเท็จจริงว่าฝ่ายการเมืองที่บีบข้าราชการจนเกิดการทุจริตนั้นคือใคร ขอให้ดีเอสไอสาวให้ถึงต้นตอของผู้บงการด้วย ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าโครงการฮั้วประมูลนี้ ไม่เพียงแต่ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ยังต้องมีนักการเมืองรวมทั้งพ่อค้าและนักธุรกิจ ร่วมมือกันโกงแบบไตรภาคี เกาะกินงบประมาณของเด็ก ดังนั้นขอเรียกร้องข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ให้ปากคำกับดีเอสไอ ได้ออกมาเปิดเผยตัวนักการเมืองที่ท่านบอกว่าถูกบีบด้วยว่าเป็นใคร
          นายประแสง กล่าวว่า ทั้งนี้ ขอตั้งข้อสังเกตงบประมาณ จำนวน 122.5 ล้านบาท ที่เกี่ยวข้องในโครงการดังกล่าว ซึ่งมีการอนุมัติและเบิกจ่ายในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลรักษาการ ว่ามีการเบิกจ่ายงบดังกล่าวผิดไปจากระเบียบของกรมบัญชีกลาง เนื่องจากในการอนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณนั้น จะต้องมีการแนบเอกสาร เช่น สัญญาว่าจ้าง สเปคหรือรายละเอียดของสินค้า หรือใบจดทะเบียนของบริษัทที่ร่วมประมูล เป็นต้น แต่ปรากฏว่าเอกสารการประกวดราคาของงบประมาณจำนวนนี้หายไป ซึ่งตามระเบียบของกรมบัญชีกลางนั้น ต้องมีการตรวจสอบจนแน่ใจว่าเอกสารที่หายไปไม่ได้เกิดจากการทุจริต ซึ่งในกรณีนี้กรมบัญชีกลางไม่ได้มีการพิสูจน์ทราบว่าเอกสารหายไปเพราะเหตุใด จนสุดท้ายก็มีการตรวจรับงานและเบิกจ่ายงบประมาณจำนวนดังกล่าวเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.54 โดยการแนบใบแจ้งความบันทึกประจำวันของ สน.ดุสิตแทน โดยระบุว่าเอกสารการประกวดราคาหายไปซึ่งไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ ดีเอสไอมาขอเอกสารการเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวแล้ว ซึ่งคาดว่าความชัดเจนในการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นอีกอย่างแน่นอน