อาเซียน-ญี่ปุ่นยกร่างแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ 10 ปี มุ่งเน้นเพิ่มความร่วมมือ 4 ด้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจระหว่างกัน เตรียมชงรัฐมนตรีไฟเขียว ส.ค.นี้ ไทยได้ทีรุกเพิ่มการช่วยเหลือ SMEs เกษตร อาหาร พัฒนาอุตสาหกรรมเหล็ก และเชื่อมระบบขนส่งนางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเปิดเผยว่า อาเซียนและญี่ปุ่นได้ตกลงที่จะจัดทำร่างแผนงานยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น ระยะ 10 ปี (ASEAN-Japan 10-Year Strategic Economic Cooperation Roadmap: 2012-2022) เพื่อใช้เป็นกรอบในการดำเนินการทางเศรษฐกิจที่สำคัญระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะสรุปร่างแผนงานยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. 2555 และให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่นให้ความเห็นชอบต่อไป
สำหรับแผนงานยุทธศาสตร์ได้มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือใน 4 ด้าน คือ 1. เพิ่มการไหลเวียนของมูลค่าและปริมาณการค้าการลงทุนระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น 2. เสริมสร้างความร่วมมือด้านการค้าสินค้า บริการ และการลงทุนเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน 3. ขยายความร่วมมือในสาขา SMEs วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์พลังงาน เกษตรกรรมและความมั่นคงทางอาหาร ลอจิสติกส์และการขนส่ง เทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีโทรคมนาคม การศึกษาและการพัฒนาบุคลากร การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อบุคลากรและชุมชน (green environment) และ 4. ลดช่องว่างการพัฒนาในประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน และปรับปรุงคุณภาพชีวิตและความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ แผนงานยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้แบ่งระยะเวลาการดำเนินการ 2 ช่วงเวลา คือ ระหว่างปี 2012-2016 และปี 2017-2022 โดยจะมีการทบทวนแผนงานยุทธศาสตร์ในปลายปี 2015 เพื่อพิจารณากำหนดกิจกรรมต่างๆ ให้สอดคล้องกับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
“ไทยได้ผลักดันการเสนอกิจกรรมความร่วมมือและการสร้างศักยภาพระหว่างอาเซียน-ญี่ปุ่นในด้านต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อไทยให้บรรจุในแผนงานยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะสาขา SMEs เกษตรกรรมและอาหาร ผลิตภัณฑ์ชุมชน (OVOP) การท่องเที่ยว และการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมเหล็กจากญี่ปุ่น รวมทั้งด้านลอจิสติกส์และการขนส่ง ซึ่งจะต้องเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างกัน โดยไทยเชื่อมั่นว่าแผนยุทธศาสตร์จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างไทย อาเซียน และญี่ปุ่น และเสริมสร้างความร่วมมือในกรอบความตกลงอาเซียน-ญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกการดำเนินงานให้เกิดเป็นรูปธรรม และย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่นที่มียาวนานถึง 35 ปี ตั้งแต่ปี 2520” นางศรีรัตน์กล่าว
ในปี 2554 มูลค่าการค้าอาเซียน-ญี่ปุ่น ประมาณ 247,978.89 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นมูลค่าการส่งออกจากอาเซียนไปญี่ปุ่น 124,802.46 ล้านเหรียญสหรัฐ และมูลค่าการนำเข้าจากญี่ปุ่น 123,176.43 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับมูลค่าการค้าไทย-ญี่ปุ่น มีประมาณ 66,507.03 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมูลค่าการส่งออกของรายการสินค้าไทยที่ได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้ AJCEP ประมาณ 1,264.70 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.80 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยที่มีการใช้สิทธิ AJCEP ได้แก่ ปลาซาร์ดีนปรุงแต่ง กุ้งที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย ผ้าโปร่งทำด้วยเส้นใยประดิษฐ์ ผ้าทำด้วยฝ้าย และรองเท้า เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น